อู๋ตง

มาถึงเมืองไทยเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาอันสวยงาม ผืนแผ่นดินอันเขียวชอุ่มอุดมสมบูรณ์ แลผู้คนที่พำนักอยู่ที่นี่ ทำให้หวนรำลึกถึงความหลังและมิตรในอดีต บุคคลที่ทำให้ฉันอาลัยรักเป็นอย่างยิ่งคือ อดีตนักประพันธ์และนักหนังสือพิมพ์ชั้นเอก คุณกุหลาบ สายประดิษฐ์

ฉันคิดถึงคำพูดที่เพื่อนคนไทยเคยพูดกับฉันคือ คนจีนเคารพนับถือนักประพันธ์ที่ยิ่งใหญ่หลู่ซิ่นฉันใด คนไทยน่าจะเคารพนักเขียนเช่นคุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ ฉันนั้น  ที่เมืองไทย ฉันได้เห็นประชาชนไทยและคนในวงการหนังสือพิมพ์มีความศรัทธาต่อท่านอย่างสูง  บ่ายวันที่ ๒๐ มิถุนายน ฉันกับอู๋จี้เอียะ เพื่อนนักหนังสือพิมพ์อาวุโสบรรณาธิการหนังสือพิมพ์จีน “ซินตงง้วน” กับลูกสาวของเขาที่เป็นนักหนังสือพิมพ์รุ่นสาวชื่อ อู๋เหม่ยอิง มาถึงสมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทสไทย ชมรูป าพและผลงานของคุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ เนื่องในวาระครบรอบ ๘ ปีแห่งมรณกรรมของท่าน ณ ระเบียงของสมาคม ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนสามเสน กรุงเทพฯ  คนจำนวนมากกำลังชมนิทรรศการ คนอีกส่วนหนึ่งกำลังซื้อหนังสือของคุณกุหลาบที่จัดพิมพ์ใหม่ และวรรณกรรมเล่มอื่นๆ

ณ ห้องประชุม มีการจัดนิทรรศการแนะนำชีวประวัติและบทประพันธ์ของคุณกุหลาบ สายประดิษฐ์  นักประพันธ์อาวุโสหลายคนกำลังกล่าวปราศัย ผู้ฟังนับร้อยคนตั้งใจฟังและบันทึกเสียง  ฉันได้เห็นบุคคลที่คุ้นเคยหลายท่าน แต่ไม่ได้ทักทายท่าน ได้แต่ยืนอยู่ ดูอยู่ และฟังอยู่

ฉันไม่ได้ฟังการอภิปรายจนจบ ก็ได้ไปที่สำนักพิมพ์ “ซินตงง้วน” พร้อมกับคุณอู๋เสียก่อน  แต่การประชุมไว้อาลัยครั้งนี้ ทำให้ฉันหวนนึกไปคิดถึงเรื่องเมื่อ ๘ ปีก่อน

นั่นคือเมื่อปลายเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๗ เป็นเพราะฉันป่วย ฉันจึงกลับจากโรงเรียน “5.7” ที่ชนบทมณฑลเหอหนาน มาถึงเมืองปักกิ่ง หลังจากรักษาตัวอยู่ประมาณครึ่งปี อาการดีขึ้น และเริ่มออกไปนอกบ้านได้บ้าง  ตอนนั้นบังเอิญมีเพื่อนที่ไม่ได้พบกันหลายปีแล้วมาพบ และนำเอาข่าวร้ายเกี่ยวกับการป่วยและเสียชีวิตของคุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ มาบอกฉัน  ข่าวนี้เสมือนสายฟ้าฟาด ทำให้ฉันตกอยู่ในความเศร้าสลดใจยิ่ง โดยเฉพาะระยะนั้นเป็นเวลาถึง ๗-๘ ปีมาแล้วที่ฉันไม่ได้พบคุณกุหลาบเลย ไม่กล้าแม้กระทั่งที่จะไปสอบถามถึงข่าวคราวของท่าน ข่าวนี้จึงยิ่งทำให้ฉันตกตะลึงและเสียใจมาก

เพื่อนคนนี้ยังบอกฉันด้วยว่า ในช่วงที่มีมหันตภัยปฏิวัติใหญ่ทางวัฒนธรรมในประเทศจีน คุณกุหลาบคิดถึงมิตรชาวจีน  ซึ่งรวมทั้งฉันด้วยเป็นอย่างมาก  ในช่วงนั้นบุคคลจำพวกที่อ้างว่าเป็น “ผู้ก่อการกบฏ” ได้วิพากษ์วิจารณ์ “โทษภัย” ของฉันและเพื่อนจีนคนอื่นๆ ซึ่งพวกเขาคาดหมายว่าอาจจะได้รับเสียงคล้อยตาม  แต่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้คาดคิดคือ คำตอบที่สั้นและชัดเจนของคุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ “ผมรู้แต่ว่าพวกเขาล้วนแต่เป็นคนดี”

“คนดี” ฉันไม่ทราบว่าในตอนนั้นคุณกุหลาบจะหมายความว่าอย่างไร  แต่ทันทีที่ฉันได้ยินคำประเมินดังกล่าว ความอบอุ่นและความซาบซึ้งใจก็ได้เกิดขึ้นในหัวใจทันที  คำพูดของมิตรชาวต่างชาติทำให้ฉันเกิดกำลังใจ และความมั่นใจที่ได้สูญหายไปเมื่อหลายปีมาแล้วได้กลับคืนมาอีกครั้ง  ฉับขอบคุณ และตอบรับในใจว่าตัวเองไม่ผิด  ผลงานและความน่าเชื่อถือในตัวเราไม่ได้ทำให้มิตรแท้คนนี้ผิดหวังเลย  ตอนนั้นเพื่อนยังได้บอกอีกว่าภรรยาคุณกุหลาบกำชับให้ตามหาฉันให้ได้ เพื่อเชิญให้ไปร่วมพิธีไว้อาลัยศพคุณกุหลาบด้วย

คุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ ได้รับเชิญจากสมาคมวิเทศสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมของจีน นำคณะส่งเสริมวัฒนธรรมไทยมาเยือนจีนเมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ปี พ.ศ. ๒๕๐๑ นับแต่วันแรกที่คณะของท่านเดินทางถึงนครปักกิ่ง ฉันก็ได้ไปต้อนรับท่านโดยตลอด พาพวกท่านไปชมโรงงาน ชมชนบทและหัวเมืองต่างๆ ทั้งยังร่วมรับประทานอาหารร่วมเดินเที่ยวตามซอยต่างๆ ที่เงียบสงบในเมืองปักกิ่ง ไปพักร้อนที่สถานพักฟื้น “เป่ยใต้เหอ” ร่วมว่ายน้ำด้วยกัน เป็นต้น  คุณกุหลาบผู้มีบุคลิกที่สงบเยือกเย็น หนักแน่น และจริงใจก็ได้ปรากฏขึ้นแก่สายตาของฉันอยู่ตลอด

คุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ เป็นนักเขียนและนักหนังสือพิมพ์ที่ก้าวหน้าของประเทศไทย  เป็นปัญญาชนที่รักชาติ ทำงานเพื่อชาติเพื่อประชาชนอย่างขยันขันแข็งและจริงใจ  เป็นตัวแทนที่โดดเด่นของสายธารวรรณกรรมอัตถนิยมร่วมสมัยของไทย  เป็นนักรบสันติภาพที่กล้าหาญ ต่อต้านสงครามรุกรานของจักรพรรดินิยม  ในวงวรรณกรรม วงการหนังสือพิมพ์ และในบรรดาปัญญาชนไทย ท่านมีเกียรติประวัติเป็นที่ยอมรับอย่างสูง  ผลงานของท่านเป็นส่วนสำคัญของวรรณกรรมไทยในสมัยปัจจุบัน

ท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๘ ที่กรุงเทพฯ  เริ่มเข้าสู่วงการนักเขียนและนักหนังสือพิมพ์ตั้งแต่เยาว์วัย นามปากกาของท่านที่ผู้อ่านพบเป็นประจำคือ “ศรีบูรพา” ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของประชาชน  ปี พ.ศ. ๒๔๘๖ ท่านเป็นนายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และอุทิศตนเพื่อการคัดค้านจักรพรรดินิยม ช่วงชิงเอกราช ประชาธิปไตยและสันติภาพโดยตลอด  ผลงานของท่านจึงมีอยู่มากมาย ได้แก่นวนิยาย แลไปข้างหน้า ลูกผู้ชาย สิ่งที่ชีวิตต้องการ ข้างหลังภาพ จนกว่าเราจะพบกันอีก เรื่องสั้นขอแรงหน่อยเถอะ “คนพวกนั้น” “อ้ายหนูหลงทาง” “ประกายใหม่ในดวงตาของเขา” “เขาตื่น” เป็นต้น

ท่านยังเคยแปลเรื่องแม่ ของกอร์กี้ เรื่องสั้นของเชคอฟ และทฤษฎี “ว่าด้วยเผด็จการประชาธิปไตยประชาชน” ของประธานเหมาเจ๋อตง เป็นต้น  นอกจากนี้ท่านยังได้เขียนบทความ บทวิจารณ์ทางการเมือง และเรื่องอื่นๆ อีกเป็นประจำ

คุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ กำเนิดจากครอบครัวที่ยากจน เคยผ่านชีวิตลำบากมาก่อน ฉะนั้นท่านจึงมีความเข้าใจประชาชนอย่างลึกซึ้ง มีความเห็นอกเห็นใจประชาชน  ท่านคัดค้านข้อเสนอที่ว่า “ศิลปะเพื่อศิลปะ” ซึ่งเหินห่างความเป็นจริงและเหินห่างสังคม  ท่านสนันสนุน “ศิลปะเพื่อชีวิต”  ท่านเห็นว่า วรรณคดีมิใช่ผลงานของนักเขียนบางคนที่เหินห่างชีวิตและเพ้อฝันเลื่อนลอย  แต่มันเกิดจากชีวิตเป็นจริงของสังคมที่มีการเคลื่อนไหวและการแปรเปลี่ยนอยู่ไม่ขาด  ผลงานของท่านมีชีวิตชีวา ตัวละครมีทั้งผู้ใช้แรงงาน ปัญญาชนและเยาวชน เป็นสำคัญ  ข้อเขียนของท่านได้สะท้อนภาพของเยาวชนที่รักชาติ รักประชาชน สนใจทุกข์สุขของสังคม มานะบากบั่นและเที่ยงธรรม  พวกเขามีชะตาที่ขมขื่นในยุคของเขา ตัวอย่างเช่น “แกะที่พลัดฝูง” ที่พิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๗ ท่านเขียน “อ้ายหนูหลงทาง” เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๓ ได้ร้องทุกข์และคลายเครียดแทน “ชีวิตน้อยๆ” ว่า “โลกนี้อะไรเป็นสิ่งถูก อะไรเป็นสิ่งผิด อะไรเป็นความดี อะไรเป็นความชั่ว ใครคือเทวดา และใครคือปิศาจ?”  ตัวละครของท่านได้ก้าวสู่ชีวิตใหม่และมีความตื่นตัว (“ประกายใหม่ในดวงตาของเขา” ในปี พ.ศ. ๒๔๙๔ และ “เขาตื่น” เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๕)

จากบทประพันธ์ของคุณกุหลาบ เราสามารถมองผ่านการเติบโตของตัวละคร เห็นถึงการงาน ชีวิต และความคิดของนักประพันธ์ได้  แต่ทว่าในชีวิตที่เป็นจริงนั้น คุณกุหลาบช่างกล้าหาญเด็ดเดี่ยวกว่าตัวละครเป็นไหนๆ  นวนิยายขนาดยาวเรื่องแลไปข้างหน้า ได้บรรยายถึงบุคคลต่างๆ เพื่อสะท้อนและแก้ปัญหาของเยาวชนยุคใหม่ของไทยนั่นเอง  “ภาคปฐมวัย” ของนวนิยายเรื่องนี้เป็นการประพันธ์ที่ท่านทำสำเร็จในคุกสมัยที่ท่านได้ติดคุกครั้งที่ ๒  ส่วน “ภาคมัชฌิมวัย” ท่านได้ประพันธ์เสร็จเมื่อก่อนมาเมืองจีน  และ “ภาคปัจฉิมวัย” ท่านเคยคุยกับฉันว่า จะเขียนให้เสร็จขณะที่เยือนจีน แต่กลับไม่ได้เป็นไปตามแผน นี่เป็นความเสียหายที่ไม่มีอะไรจะมาทดแทนได้ ซึ่งเราทุกคนต้องเสียดายเป็นอย่างยิ่ง

จากบทประพันธ์ของคุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ เราจะเห็นได้ว่า ท่านสอดใส่ความกระตือรือร้น ความรักและความหวังไว้กับปิตุภูมิและประชาชนของท่าน และทำให้เราสัมผัสได้ถึงชีพจรของยุคสมัย  ขณะเดียวกันก็จะมองเห็นว่าท่านเป็นนักประพันธ์ที่ได้สืบทอดและได้พัฒนาสิ่งดีงามทางวัฒนธรรมของไทย ภาษาเขียนของท่านเรียบง่าย สละสลวย เข้มงวด กระชับ สมกับที่ผู้คนทั้งหลายได้ยกย่องท่านเป็นนักภาษาที่ดีของไทยในยุคปัจจุบัน  บทประพันธ์ของท่านแม้จะอยู่ในยุคที่เมืองไทยมีเหตุการณ์รุนแรงอยู่ ก็ยังได้รับการตีพิมพ์ครั้งแล้วครั้งเล่า และยังเป็นที่นิยมชมชอบของผู้คนจนถึงทุกวันนี้

คุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ ไม่เพียงแต่เป็นนักประพันธ์ที่ยิ่งใหญ่ของประเทศไทย หากยังเป็นมิตรที่ดีของประชาชนจีนด้วย  เริ่มต้นเมื่อนานมาแล้ว ท่านก็ได้เข้าร่วมกิจกรรมที่เป็นผลดีและผลักดันความสัมพันธ์อันดีของประชาชนไทยและจีน ปี พ.ศ. ๒๕๐๑ ท่านได้นำคณะมิตรภาพไทยเยือนจีน นับเป็นคณะแรกที่เยือนจีนในสมัยนั้น  เวลานั้นจักรวรรดินิยมใช้เครื่องมือโฆษณาโจมตีใส่ร้ายป้ายสีจีน  คนจำนวนหนึ่งยังไม่เข้าใจประเทศจีน หรืออาจจะมีความเข้าใจผิดด้วย  การที่ท่านฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ไปเยือนจีน เป็นเรื่องที่มีคุณค่ามาก  ขณะเยือนจีนท่านมีความรู้สึกที่ดีในการเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ  ท่านได้ศึกษาความเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ของจีน  ท่านได้ไปมณฑลหัวเมืองเขตปกครองตนเองกว่าครึ่งเพื่อเรียนรู้ความเจริญก้าวหน้าในชนบทและความสำเร็จทางวัฒนธรรมทางการศึกษา เรื่องสวัสดิการของประชาชน และการปกครองตนเองของชนชาติส่วนน้อย  ท่านกล่าวว่า การท่องเที่ยวในประเทศจีนก็เหมือนกับการไปเยี่ยมญาติในที่ต่างๆ  ครั้งหนึ่งท่านได้ใส่ชุดไทยสีเทาตามประเพณีไทย เดินไปตามทางที่ถนนหวางฝู่จิงซึ่งเป็นเขตชุมชนที่มีคนมาก มีคนจากต่างถิ่นมาเยือนปักกิ่งชั่วคราว เดินเข้ามาทักท่านว่า “คุณลุงครับ” เพื่อถามท่าน  คุณกุหลาบยิ้มๆ และบอกกับเขาด้วยภาษาจีนง่ายๆ แล้วเรียกล่ามให้แปลตอบพวกเขา  หลังจากนั้นคุณกุหลาบดีใจและได้เล่าเรื่องนี้แก่มิตรสหายของท่านหลายครั้ง

ท่านได้สั่งจองเอกสารภาษาอังกฤษที่จีนจัดทำศึกษาอยู่เป็นเนืองนิจเพื่อเก็บข้อมูลต่างๆ  ขณะเดียวกันท่านยังได้ร่วมกิจกรรมด้านต่างๆ ที่ส่งเสริมกระชับสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศไทยกับจีน  ท่านยังได้เปิดการสัมมนาแก่อาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยปักกิ่ง เพื่อเผยแพร่แนะนำวรรณคดีไทย และได้เขียนบทความลงนิตยสารวรรณกรรมโลก เพื่อแนะนำวรรณคดี  ท่านยังได้รวบรวมสิ่งที่ได้พบเห็น เรียบเรียงเป็นบทสนทนาออกอากาศที่สถานีวิทยุปักกิ่ง เพื่อแนะนำประชาชนชาวไทย  หลังจากนั้นมิตรสหายไทยได้บอกกับฉันว่า ช่วงนั้นผู้ฟังในไทยจะคอยฟังคุณกุหลาบตามเวลาที่ได้กำหนดไว้ เพื่อศึกษาเรื่องราวต่างๆ จากเสียงของคุณกุหลาบ

ขณะที่คุณกุหลาบพำนักอยู่ในประเทศจีน ในนามนักเขียนไทย ท่านยังได้เข้าร่วมการเคลื่อนไหวต่างๆ กับนักเขียนชาวจีนและนักเขียนชาวเอเชีย-แอฟริกา  ท่านได้สร้างคุณูปการอันใหญ่หลวงในการกระชับมิตรภาพระหว่างไทย-จีน ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน ไทยกับประชาชนเอเชีย-แอฟริกาและทั่วโลก ความสัมพันธ์รหว่างนักเขียนประเทศต่างๆ ท่านกับนักประพันธ์ผู้มีชื่อเสียงของจีน เช่น กัวม่อย่อ เหมาตุ้น โจวหยาง ปาจิน สวี่กวางผิง ชู่ถูหนาน เซาอวี่ จ้าวพู่ชู หลิวป้ายอวี่ เซี่ยปิงชอน เอี๋ยนเหวินจิ่ง หลินหลิน และชิวจี๋ เป็นต้น ได้ผูกมิตรกันและมีความใกล้ชิดสนิทสนมกันเป็นอย่างดี

เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๗ ในงานไว้อาลัยคุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ ที่จัดโดยสมาคมมิตรภาพไทยจีนนั้น ท่านนายกรัฐมนตรีโจวเอินไหลได้เขียนไว้ที่พวงหรีดว่า “มิตรที่ดียิ่งของจีน คุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ เป็นอมตะ” ท่านกัวม่อย่อ ประธานนักประพันธ์จีนเขียนไว้ที่พวงหรีดว่า “มิตรที่ดีของจีน นักประพันธ์ที่ก้าวหน้า คุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ เป็นอมตะ”  การประเมินของท่านเหล่านี้ ล้วนแสดงออกถึงความอาลัยรักจากประชาชนจีนและวงการวรรณคดีจีนที่มีต่อคุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ อย่างแท้จริง

ในงานวันไว้อาลัยนั้น ฉันได้ทำตามประเพณีไทย ได้รดน้ำที่มือขวาของท่าน เพื่ออำลาท่าน  มือที่ถือเครื่องรดน้ำนั้นสั่นไปพร้อมกับการเต้นของหัวใจ  มองไปที่มือท่านที่เคยถือปากกาอันเป็นอาวุธที่แหลมคมเด็ดเดี่ยว  มองไปที่ใบหน้าอันจริงใจและสงบนิ่งของท่าน รู้สึกปวดร้าวยิ่งนักว่าประชาชนไทยได้สูญเสียลูกที่ซื่อสัตย์  สูญเสียนักประพันธ์ที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งไป  ประชาชนชาวจีนได้สูญเสียมิตรที่ดี ประชาชนทั่วโลกและผู้ก้าวหน้าทั้งหลายได้สูญเสียนักประพันธ์ของซีกโลกตะวันออกผู้ยิ่งใหญ่ไป นี่ช่างเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่นัก  แต่ ๖๙ ปีที่ผ่านมาของคุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ เป็น ๖๙ ปีที่ยิ่งใหญ่และมีเกียรติ  ชื่อของคุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ จะจารึกอยู่ในจิตใจของประชาชนชาวไทย และจารึกอยู่ในหัวใจของประชาชนจีนตลอดไปอย่างแน่นอน.

เขียนเมื่อมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๒๕

ที่กรุงเทพฯ

อู๋ตง

(แปล ๑๗ มิถุนายน ค.ศ. ๒๐๐๓)

บุญเทียนทอง